17th AOGEO Symposium

17th AOGEO Symposium

“17th AOGEO Symposium” หมายถึงการประชุมระดับภูมิภาคของ Asia-Oceania Group on Earth Observations (AOGEO) ครั้งที่ 17 ซึ่งเน้นการใช้ข้อมูลจากการสำรวจโลก (Earth Observation หรือ EO) เพื่อต่อยอดเป็น “ปัญญาธรณี” (Earth Intelligence) ในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย

ธีมงาน “Envisioning Earth Intelligence Across Boundaries: Accelerating Impact in the Asia-Oceania Region”

จัดโดย Geo-Informatics and Space Technology Development Agency (GISTDA, ไทย) ร่วมกับกระทรวงการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม ประเทศญี่ปุ่น (MEXT) และได้รับการสนับสนุนจาก GEO Secretariat

จุดประสงค์ & เนื้อหาที่เน้นในการประชุม

• เป็นเวทีแลกเปลี่ยนผลงาน กิจกรรม และแนวทางอนาคตของการใช้การสำรวจโลก (EO) ในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย 

• พิจารณาปัญหาเฉพาะในภูมิภาค เช่น กรอบกฎหมาย เทคโนโลยี ขีดความสามารถบุคลากร ระบบสถาบัน และโครงสร้างพื้นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับ Earth Intelligence 

• ส่งมอบข้อเสนอและคำแนะนำจากชุมชน AOGEO ไปยัง GEO เพื่อใช้ในการวางแผนแผนยุทธศาสตร์หลังปี 2025 (Post-2025 GEO Strategy) 

• สนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ (ภาครัฐ ภาควิจัย ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม) เพื่อให้การประยุกต์ใช้งาน Earth Observation มีผลกระทบที่เป็นรูปธรรมในพื้นที่จริง 

• สรุปผลในรูปของ “AOGEO Statement” ที่จะนำเสนอต่อคณะผู้บริหารของ AOGEO และเผยแพร่ในชุมชน GEO ทั่วโลก

งาน 17th AOGEO Symposium มีความสำคัญหลายประการ ทั้งในระดับภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนียและในระดับโลก ภายใต้กรอบของ “Earth Observation / Earth Intelligence” ดังนี้:

1. เวทีสำคัญของภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์

• เป็น “เวทีประจำ” ของกลุ่ม AOGEO (Asia-Oceania Group on Earth Observations) สำหรับให้หน่วยงาน ภาควิจัย ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้มีส่วนได้เสีย มาแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดี (best practices), ความท้าทาย และโอกาสใหม่ในงานสำรวจโลก (EO) ภูมิภาคนี้ 

• ช่วยให้แต่ละประเทศเห็นว่าเพื่อนบ้านกำลังทำอะไร อะไรใช้ได้ดี อะไรควรหลีกเลี่ยง และนำไปปรับใช้ในบริบทของตน

2. ช่วยระบุ “ปัญหาเฉพาะภูมิภาค” และหาแนวทางแก้ไข

• ในเอเชีย-โอเชียเนียมีความหลากหลายสูง ทั้งภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ความพร้อมทางเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน การประชุมช่วยให้ระบุ “รากของปัญหา” โดยร่วมกันวิเคราะห์ พูดคุยถึงช่องว่าง (gaps) ในทักษะ ความสามารถ เทคโนโลยี เครื่องมือ และระบบสถาบันที่จะสนับสนุน EO ให้เกิดประโยชน์จริง 

• ยังช่วยให้ตั้งเป้าหมายร่วม (shared objectives) ที่เหมาะสมกับความสามารถของประเทศสมาชิกแต่ละประเทศ

3. ขับเคลื่อน “Earth Intelligence” — จากข้อมูลดิบสู่การตัดสินใจ / นโยบาย

• ธีมงาน “Envisioning Earth Intelligence Across Boundaries” สื่อว่าเป้าหมายไม่ใช่แค่รวบรวมข้อมูลดาวเทียมหรือเซนเซอร์ แต่การแปลงข้อมูลนั้นให้กลายเป็น “ปัญญาธรณี” (Earth Intelligence) ที่สามารถนำไปใช้สนับสนุนการวางแผน การตัดสินใจ หรือการแก้ปัญหาจริงในพื้นที่ต่าง ๆ 

• งานนี้จะช่วยสร้างแนวทางให้ภูมิภาคสามารถ “เชื่อมข้อมูล – วิเคราะห์ – ปฏิบัติการ” ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

4. เสนอข้อเสนอแนะแนวทางเพื่อ GEO (ระดับโลก) และยุทธศาสตร์หลังปี 2025

• หนึ่งในวัตถุประสงค์หลัก คือ “Formulate and deliver recommendations from the AOGEO community to GEO to implement the Post-2025 GEO Strategy” 

• ข้อเสนอ (recommendations) ที่ได้จะถูกบรรจุใน “AOGEO Statement” และส่งไปยัง GEO Secretariat และชุมชน GEO ทั้งโลก เพื่อให้เสียงของภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนียมีบทบาทในการกำหนดยุทธศาสตร์ระดับโลก 

5. กระตุ้นความร่วมมือข้ามภาคส่วน (Cross-Sectoral Collaboration)

• ประเด็นสมัยใหม่ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติ ความมั่นคงทรัพยากรน้ำ ระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อมในเขตชายฝั่ง ฯลฯ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง หลายภาคส่วน งานประชุมช่วยให้เกิดการ “เชื่อมต่อ” ระหว่างหน่วยงานในภาคต่าง ๆ (การวางแผน เมือง เกษตร สาธารณสุข ฯลฯ) เพื่อใช้ EO/ปัญญาธรณีร่วมกัน 

6. สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ (Capacity Building) และการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่

• งานประชุมมักมี sessions / เวิร์กชอปที่เน้นให้ความรู้ ฝึกทักษะ และสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญ

• ยิ่งในภูมิภาคที่บางประเทศอาจมีทรัพยากรการสำรวจโลกหรือบุคลากรยังไม่มาก การมีเวทีแบบนี้ช่วยเพิ่ม “ขีดความสามารถภายในประเทศ” ให้สูงขึ้น

7. สะท้อนผลงานที่ทำมา และสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่

• เป็นโอกาสให้ประเทศสมาชิกโชว์ผลงาน EO / โครงการที่ทำ และรับ feedback

• ยังเป็นจุดเริ่มต้นให้ตั้งเป้าหมายหรือโครงการใหม่สำหรับระยะต่อไป

วันที่ : 15–17 ตุลาคม 2025

สถานที่ : โรงแรม Millennium Hilton กรุงเทพฯ ประเทศไทย